โปรแกรมฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าโดยทีมแพทย์American Board
ฟิลเลอร์ คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ (Filler) หรือ สารเติมเต็ม ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid / HA) ใช้เติมเต็มผิวให้เกิดการเต่งตึง อิ่มฟูขึ้น เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ให้กลับมาเรียบเนียน และสามารถปรับรูปหน้า เช่น เติมปากให้อวบอิ่ม เติมขมับให้เต็มหน้าได้รูป เติมคางให้หน้าดูเรียวยาวขึ้น โปรแกรมฟิลเลอร์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะหลังฉีดแล้วเห็นผลลัพธ์ทันที ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย เพราะเป็นสารที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
ปรับรูปหน้าด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ไหนดี?
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่เห็นผลลัพธ์และปลอดภัยต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์เป็นหลักเพราะแพทย์ที่ทำหัตถการต้องมีความชำนาญทั้งในเรื่องโครงสร้างกายวิภาค(Anatomy) ของใบหน้าไม่ว่าจะเป็นเส้นเลือดและเส้นประสาทต่างๆ โครงสร้างชั้นกระดูก กล้ามเนื้อไขมันชั้นลึกและชั้นตื้นเป็นอย่างดี และต้องอาศัยศิลปะในการออกแบบตกแต่งใบหน้าเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องให้ดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ นอกเหนือจากการเลือกแพทย์ผู้ทำหัตถการแล้ว การเลือกคลินิกก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน ทั้งในเรื่องมาตรฐานและคุณภาพของยาที่แท้ก็จะช่วยให้การทำหัตถการปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ ที่ Vdesign Clinic
- ฉีดกับแพทย์American Board เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ ประสบการณ์กว่า 10 ปี
- ฉีดกับอาจารย์แพทย์ ระดับ Master Trainer ที่ได้รับเชิญไปสอนเทคนิคการฉีดให้แพทย์ท่านอื่น
- แก้ปัญหาตรงจุด ด้วยเทคนิคพิเศษ แพทย์ชำนาญด้านโครงสร้างกายวิภาคบนใบหน้าเป็นอย่างดี ทำให้ฉีดฟิลเลอร์แม่นยำ ปลอดภัย และผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
- ทีมแพทย์มีการเทรนนิ่ง อัพเดทความรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาศักยภาพ และเทคนิคใหม่ๆ อยู่เสมอ
- ใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่านการรับรองระดับนานาชาติ US FDA จากอเมริกา /EU FDA จากยุโรป / KFDA จากเกาหลี และ TH FDA ของไทย ตรวจสอบได้ทุกกล่อง ก่อนฉีดแพทย์จะแกะกล่องใหม่ทุกเคส มั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัย
- ได้รับความไว้วางใจจากดารา และ Celebrity มากมาย ที่เชื่อมั่นในฝีมือ และคุณภาพของทีมแพทย์ Vdesign Clinic
- เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 10 ปี กว่า 95% ของคนไข้ประทับใจผลลัพธ์ และการให้บริการ จนเกิดเคสบอกต่อ
- Vdesign Clinic ปลอดภัย มาตรฐานเครือโรงพยาบาลวิภาวดี
ฟิลเลอร์ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?
ฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ปาก เติมเต็มริมฝีปากบน และล่างด้วยฟิลเลอร์ปากให้อวบอิ่มได้รูป หรือได้รูปทรงที่ต้องการ และสามารถเติมกระจับด้วยฟิลเลอร์ปากให้ดูมีความน่ารักขึ้น หรือฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปากตกให้ยกขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ใบหน้าดูหวานละมุนขึ้นทันที การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการที่ทำแล้วมีผลให้ใบหน้าเปลี่ยนได้ทันที ฟิลเลอร์ปากจึงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่คนไข้จะเลือกฉีดกัน
ฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตา หรือการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปบริเวณที่มีปัญหารอบดวงตา ไม่ว่าจะปัญหาใต้ตาดำ ใต้ตาคล้ำ ร่องใต้ตา ริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาลึก ซึ่งการฉีดเป็นเทคนิคทางความงามที่ช่วยเติมเต็มพื้นที่ว่าง และริ้วรอยรอบดวงตา ทำให้ใต้ตาดูอิ่มเต็ม เรียบเนียน ริ้วรอยและรอยคล้ำจางลง ขอบตาดูกระจ่างใสขึ้น ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสดชื่นและมีชีวิตชีวา
ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหัตถการในการแก้ปัญหาใต้ตาที่สะดวกและไม่ต้องใช้เวลานาน ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที มีเพียงแค่รอยเข็มหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเล็กน้อย อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวรอบดวงตา คืนความสดใสให้ใบหน้า
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ฟิลเลอร์เติมเต็มร่องแก้ม หรือร่องลึกข้างจมูก ให้เต็ม เติมเต็มส่วนที่ยุบตัวลง ทำให้ร่องแก้มตื้นขึ้น ผิวดูอิ่มฟู และใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องร่องแก้มลึก ริ้วรอย และต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ขมับ
ฉีดฟิลเลอร์ขมับเติมขมับที่ตอบและเว้าลึกให้เต็มขึ้น สามารถช่วยพรางโหนกแก้มที่ใหญ่และสูง ให้รูปหน้าดูละมุนมีมิติมากขึ้นทั้งยังช่วยยกผิวบริเวณหางตา หางคิ้ว ให้ยกขึ้นอีกด้วย ทำให้หน้าดูเรียวยกได้สัดส่วนเห็นผลขมับเต็มทันทีหลังทำ ไม่ต้องผ่าตัด และพักฟื้น
ฟิลเลอร์คาง
เติมคาง Filler คาง แก้ปัญหาผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด ทำให้รูปหน้าดูสั้นและไม่สมส่วนการเติมฟิลเลอร์คางจะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาวเป็นธรรมชาติ รูปหน้าสมส่วนทันทีหลังทำโดยไม่ต้องผ่าตัดหลังฉีดฟิลเลอร์คางสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ โดยไม่ต้องฟื้นพื้น
ฟิลเลอร์กรอบหน้า(Jawline Filler)
ฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า หรือฟิลเลอร์ Jawline คือการฉีดเติมตั้งแต่บริเวณคางไปจนถึงบริเวณสันกราม เพื่อปรับแนวสันกรามให้คมชัดขึ้น เพื่อปรับโครงกรอบหน้าให้ดูคมชัด และยังช่วยให้กรอบหน้ากระชับขึ้นด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่กรอบหน้าไม่ชัด ไม่มั่นใจในมุมด้านข้าง การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าจะช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ หน้าดูเรียวชัดขึ้น และยังทำให้หน้าดูเล็กลงได้อีกด้วย
ฟิลเลอร์แก้มส้ม
ฟิลเลอร์หน้าแก้ม หรือ ฟิลเลอร์แก้มส้ม คือ การฉีดสารเติมเต็มเข้าไปบริเวณหน้าแก้ม เพื่อแก้ไขปัญหาแก้มตอบ แก้มยุบ แก้ปัญหาสำหรับผู้ที่เนื้อแก้มน้อย หน้าแบนไร้มิติ ทำให้ดูมีอายุ ทำให้ใบหน้าดูอิ่มฟู มีมิติมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเป็นวิธีที่ปลอดภัย เห็นผลรวดเร็ว และไม่ต้องพักฟื้นนาน
ฟิลเลอร์ แต่ละจุดใช้กี่ ซีซี
ฟิลเลอร์แต่ละบริเวณใช้ปริมาณต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัญหา และการประเมินของแพทย์ ซึ่งแต่ละจุดใช้ปริมาณมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน วีดีไซน์หาปริมาณเฉลี่ยในการเติมแต่ละจุด เพื่อให้เห็นปริมาณคร่าวๆ ก่อนตัดสินใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์เป็นหลัก
ฟิลเลอร์ปาก 1-2 cc.
ฟิลเลอร์ใต้ตา 1-2 cc.
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2-6 cc.
ฟิลเลอร์ขมับ 2-4 cc.
ฟิลเลอร์คาง 2-4 cc.
ฟิลเลอร์กรอบหน้า (Jawline Filler) 2-6 cc.
ฟิลเลอร์แก้มส้ม 2-4 cc.
ฟิลเลอร์ หลังฉีดกี่วันถึงเข้าที่
ฟิลเลอร์จัดเป็นหัตถการที่เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ จึงเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องพักฟื้น อาจมีอาการบวมเล็กน้อย หรืออาจมีรอยช้ำ รอยเข็ม ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่เกิน 5 วัน อาการเหล่านี้จะหายได้เอง
ฟิลเลอร์แบรนด์ไหนดี รวม 3 แบรนด์ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยม
Juvederm ฟิลเลอร์อเมริกา ผลิตโดย Allergan ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหลายหน่วยงาน รวมถึง อย. ไทย, US FDA และ EDQM ยุโรป
ฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
1.Volbella : เนื้อนิ่มที่สุด ไม่จับตัวเป็นก้อน
2.Volift : เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับผิวบาง ใช้กับร่องแก้มและใต้ตา
3.Volite : เพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผิวชั้นตื้นและใต้ตา
4.Voluma : เนื้อแข็ง เหมาะสำหรับแก้ม คาง ขมับ
5.Volux : เนื้อแข็งที่สุด เหมาะสำหรับคาง ขมับ และร่องลึก
Restylane ฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดน ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมานานกว่า 25 ปี ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก US FDA และ อย. ไทย
ฟิลเลอร์ Restylane แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
1. KYSSE : เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับริมฝีปาก
2. Vital Light : เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับใต้ตาและผิวชั้นตื้น
3. Vital : เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับหน้าผากและริ้วรอยตื้น
4. Volyme : เนื้อนิ่ม เหมาะสำหรับขมับ แก้ม ร่องแก้ม
5. Defyne : ยืดหยุ่น เหมาะสำหรับร่องริ้วรอยจากการยิ้ม ร่องแก้ม มุมปาก
6. Restylane Classic : เนื้อแข็งปานกลาง เหมาะกับริ้วรอยระดับปานกลางถึงลึก
7. Refyne : เนื้อแข็งปานกลาง ยืดหยุ่น เหมาะสำหรับผิวบางและริ้วรอยตื้น
8. Lyft : เนื้อแข็ง คงรูปได้ดี เหมาะสำหรับคางและขมับ
Ultra V Hyal Filler ฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลี ที่ได้รับความนิยมมากทั้งในเกาหลีและทั่วโลก ใช้งานใน 41 ประเทศ และได้รับการขึ้นทะเบียนในหลายประเทศ รวมถึงไทย ยุโรป เกาหลี และจีน ผลิตด้วยเทคโนโลยี R Square ที่ผสมผสานฟิลเลอร์แบบ Monophasic และ Biphasic เป็นแบรนด์แรกที่ได้รับสิทธิบัตรการผลิตแบบ Multi Layered phasic filler ช่วยลดความเสี่ยงของอาการข้างเคียง เนื้อฉีดง่ายและเจ็บน้อย มีงานวิจัยรองรับว่าไม่ก่อให้เกิดอาการบวมหลังฉีด ทั้งในระยะ Immediate (หลังฉีดทันที) และ Delayed Swelling (อาการบวมภายหลังจากฉีดไปแล้ว) เนื้อสัมผัสบางเบา และให้ความเรียบเนียนสูงเมื่อฉีด ที่สำคัญให้ผลลัพธ์ที่คงทนกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป
Ultra V Hyal Filler มี 3 รุ่น แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน
Ultra V Hyal Filler รุ่น Hyal Fine
- เนื้อเจลบางเบา
- เหมาะสำหรับริ้วรอยตื้น เช่น หางตา และเติมปาก
- คงผลลัพธ์ 6-8 เดือน
- ฉีดในชั้น Mid Dermis
Ultra V Hyal Filler รุ่น Hyal Medium
- เนื้อเจลมีความคงตัวมากขึ้น แข็งปานกลาง
- เหมาะสำหรับเพิ่มความอวบอิ่มของผิว เช่น ร่องแก้ม หน้าแก้ม หน้าผาก
- คงผลลัพธ์ 8-16 เดือน
- ฉีดในชั้น Deep Dermis/Sub-Q Layer
Ultra V Hyal Filler รุ่น Hyal Hard
- เนื้อเจลแข็งที่สุดใน 3 รุ่น
- เหมาะสำหรับการขึ้นรูปและแก้ไขปัญหาในชั้นลึก เช่น ร่องลึก ร่องน้ำหมาก ใต้ตา คาง ขมับ
- คงผลลัพธ์ 6-24 เดือน
- ฉีดในชั้น Sub-Q Layer/on bone
โปรแกรมฉีด Ultra V Hyal Filler เป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความปลอดภัยและอาการข้างเคียง
เตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
1. การศึกษาข้อมูลและเลือกผู้ให้บริการ
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่จะฉีด รวมถึงจุดเด่นของแต่ละรุ่นและยี่ห้อ
- ตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์แท้หรือปลอม
- เลือกคลินิกที่ซื้อฟิลเลอร์จากบริษัทนำเข้าและจัดจำหน่ายโดยตรง
- เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง มีตัวตนจริง และมีเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม
2. การให้ข้อมูลทางการแพทย์
- แจ้งประวัติการฉีดหน้าและทำศัลยกรรม
- แจ้งประวัติการแพ้ยา ยาที่รับประทานเป็นประจำ และโรคประจำตัว
- แจ้งภาวะการตั้งครรภ์ (ถ้ามี)
3. การเตรียมตัวเองก่อนฉีด
- หลีกเลี่ยงการทานวิตามินและอาหารเสริมบางประเภทที่มีฤทธิ์เพิ่มการไหลเวียนโลหิต เช่น วิตามิน C และ E อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
4. การทำหัตถการอื่นๆ
- หากต้องทำหัตถการอื่นบนใบหน้า เช่น นวดหน้า เลเซอร์ Ultraformer III หรือฉีดแฟต สามารถทำในวันเดียวกันได้
- ควรทำหัตถการอื่นให้เสร็จก่อนเริ่มฉีดฟิลเลอร์
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ให้มีความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีโดยลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้การให้ข้อมูลที่ครบถ้วนแก่แพทย์จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับแต่ละบุคคลมากที่สุด
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์
1.ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินปัญหา และปริมาณฟิลเลอร์ที่ควรใช้
2.ทำความสะอาดใบหน้า เช็คเครื่องสำอางออกจากผิว
3.แพทย์แกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้าก่อนฉีด เพื่อเช็คว่าเป็นฟิลเลอร์แท้
4.ประคบน้ำแข็งลดความเจ็บได้ส่วนหนึ่ง แต่ในเนื้อฟิลเลอร์จะมียาชาผสมอยู่แล้ว
5.เมื่อฉีดเสร็จ แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเอง ข้อควรปฏิบัติ และข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน และนานขึ้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ ดูแลตัวเองอย่างไร ?
1.หลีกเลี่ยงการแกะ เกา กดในจุดที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เสียรูปทรง
2.อาจมีอาการบวมแดง หรือเขียวช้ำเป็นปกติ แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน
3.หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีความร้อนสูง เช่น งดทำซาวน่า อบไอน้ำ อย่างน้อย 14 วันหลังฉีด
4.งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกอย่างน้อย 1 เดือน
5.ดื่มน้ำสม่ำเสมอ เพราะฟิลเลอร์จะดูดน้ำในเซลล์ ซึ่งจะทำให้ฟิลเลอร์ฟูขึ้น เนียนสวยดูเป็นธรรมชาติ
6.ใน 7 วันแรกควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด / อาหารหมักดอง และงดสูบบุหรี่ เพราะจะส่งผลต่อการอักเสบ ยุบบวมช้า และอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์อยู่ได้สั้นลง
FAQ คำถามที่พบบ่อย
Q : ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน กี่วันเห็นผล?
A : ฉีดฟิลเลอร์ จะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด อาการข้างเคียงอื่นๆ เช่น บวม รอยช้ำ รอยเข็ม จะหายได้เองไม่เกิน 14 วัน
Q : ฉีดฟิลเลอร์ ทำไมต้องใช้เข็มทู่
A : เข็มทู่ ( Blunt Cannula ) เข็มที่ปลายเข็มทู่ตัน ไม่แหลมคม ทำให้ไม่สามารถเจาะทะลุเส้นเลือดได้ โดยเนื้อฟิลเลอร์จะไหลออกทางรูด้านข้าง ใกล้ๆ ปลายเข็ม บริเวณที่ควรใช้เข็มทู่ในการฉีดฟิลเลอร์ คือฟิลเลอร์ใต้ตา และฟิลเลอร์ร่องแก้ม เนื่องจากเป็นจุดที่มีเส้นเลือดสำคัญเชื่อมกับตา และอวัยวะที่สำคัญบริเวณใบหน้า ซึ่งหากใช้เข็มทู่ในการฉีดจะช่วยลดความเสี่ยงในการจิ้มโดนเส้นเลือดแตก จนฟิลเลอร์อุดตันการไหลเวียนของเลือดได้
Q : ฟิลเลอร์อันตรายไหม?
A : หากใช้ฟิลเลอร์แท้ แพทย์มีความเชี่ยวชาญ และมีความชำนาญสูง ก็มั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย
Q : ฟิลเลอร์เป็นก้อน แก้ไขอย่างไร?
A : สามารถฉีดสลายได้ โดยระยะเวลาในการรอฟิลเลอร์สลายประมาณ 1-2 อาทิตย์
Q : ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์
A : อาจพบอาการบวมช้ำ เป็นรอยแดง ซึ่งสามารถพบได้เป็นปกติ ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด และอาการจะหายไปได้เองตามธรรมชาติ ยุบบวมหายสนิทใน 1-2 สัปดาห์
Q : ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม?
A : เรียกว่าเป็นความเจ็บที่สามารถทนได้ทั้งระหว่างทำ และหลังทำ เพราะโดยปกติการฉีดฟิลเลอร์จะมีการฉีดยาชา หรือทายาชาอยู่แล้ว และฟิลเลอร์บางตัวก็มียาชาในตัว
Q : เคยฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น เปลี่ยนยี่ห้อฟิลเลอร์ได้ไหม?
A : คนที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาแล้ว แต่อยากฉีดซ้ำ หรือฉีดฟิลเลอร์บริเวณอื่นๆ สามารถเปลี่ยนยี่ห้อฟิลเลอร์ได้ สามารถปรึกษาหรือขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ Vdesign Clinic ได้
Q : ฟิลเลอร์เก่าเริ่มสลาย ถ้าจะฉีดใหม่ต้องขูดฟิลเลอร์เก่าออกไหม?
A : หากเคยฉีดฟิลเลอร์แท้มาก่อน ถ้าฟิลเลอร์เริ่มสลาย สามารถฉีดเติมฟิลเลอร์ได้เลย ไม่จำเป็นต้องขูดฟิลเลอร์เก่าออก
Q : ฟิลเลอร์สลายไวกว่าปกติ เกิดจากอะไร?
A : ฟิลเลอร์สลายไวกว่าปกติ อาจเกิดได้จาก การนวด บีบ คลึง จุดที่ฉีดฟิลเลอร์บ่อยๆ หรือผิวบริเวณนั้นโดนความร้อนบ่อยจนเกินไป ในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีความร้อนสูง เช่น งดทำซาวน่า และงดทำหัตถการที่ใช้ความร้อน เช่น ยิงเลเซอร์, Thermage, Uthera ฯ
Q : ฉีดฟิลเลอร์ แพ้ได้ไหม?
A : แพ้ฟิลเลอร์ ผลข้างเคียงหลังฉีดที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก อาการแพ้ส่วนใหญ่ จะมีอาการ เช่น แสบ คัน ปวด อักเสบ ขึ้นผื่น หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ โดยอาการจะพบหลังฉีดนานผิดปกติ หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบแจ้งคลินิกในทันที